ประเทศอินเดีย (สาธารณรัฐอินเดีย
ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียไต้ เป็นแหล่งกำเนิดของวัฒนธรรมโบราณที่เกาแก่ที่สุดในโลกาก็ว่าได้เป็นที่กำเนิดศาสนาที่สำคัญและยิ่งใหญ่ของโลก เช่นศาสนาพุทธ ศาสนาฮินดู ศานาเชน ศาสนาซิก และลัทธิต่าง ๆ มากมาย โดยมีคำบรรยายที่แต่งเป็นคำกลอนว่า อินเดีย คือแดนดินถื่นพระเจ้า (ศาสนาฮินดู มีพระเจ้าหลายองค์) อินเดีย มีหลายเผ่าหลายศาสนา อินเดีย มีแม่น้ำศักสิทธิ์ชื่อคงคา อินเดีย มีภูผาหิมาลัย อินเดีย คือที่สุดของที่สุด (รวยที่สุด จนที่สุด) อินเดีย คือเมืองพุทธอันยิ่งใหญ่ (กำเนิดพุทธศาสนา) อินเดีย มีสาวสวยกว่าเมืองใด (มีนางงามจักรวาล) อินเดียไม่ไร้น้ำในจึงมีขอทาน อินเดีย ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย มีประชากรมากเป็นอันดับสองของโลก ตั้งแต่ได้รับเอกราชจากการปกครองของประเทศอังกฤษ ยังไม่เคยใช้รัฐนูญแบับใหม่เลย ( มีประธานาธิบดี เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ ชื่อ นางประติภา เทวีซิงค์ ปาฎิล นายกราชสภา คือ นายกฤษณ กันต์ นายกโลกสภา คือ คานที โมหัน พลโยคี นายกรัฐมนตรี คือ นายมานโมฮันซิงค์ )
ภาษาราชการ คือ ภาษาฮินดี ประชากร 1,000 กว่าล้านคน วัฒนธรรม ผู้หญิงขอผู้ชายแต่งงาน
สวนลุมพินี สถานที่ประสูตร เป็นสังเวชนียสถานแห่งที่ 1
เป็นอุทยานที่น่ารื่นรมย์ อยู่กึ่งกลางรหว่างเมืองเทวทหะ กับกรุงกบิลพัสดุ์ เป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ปัจจุบันเรียกว่า รุมมินเด อำเภอไพราว่า ประเทศเนปาล ห่างจากพรมแดนอินเดียราว 23 กิโลเมคร สิ่งที่ค้นพบ คือ ซากวัดเก่าแก่ สระน้ำที่พระนางสิริมหามายาทรงสนาน, รูปปั้นหินแกะสลักตอนพระนางประสูติพระราชโอรส และเสาหินที่พระเจ้าอโศกมหาราชจารึกไว้ว่า เป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า
วิหารมายาเทวี พระพุทธเจ้าปางประสูติ
วิหารมายาเทวี วัดไทยลุมพินี
พุทธคยา เมืองคยา เป็นสถานที่ตรัสรู้ สังเวชนยสถานแห่งที่ 2
• คยา เป็นตำบลหนึ่งในอำเภอคยา จังหวัดมคธ รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ตัวเมืองทอดยาวไปตามชายฝั่งของแม่น้ำเนรัญชรา เมืองแห่งนี้เป็นเมืองสำคัญทั้งของศาสนาพุทธและศาสนาฮินดู เป็นสถานที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดงอาทิตตปริยายสูตรแก่ชฏิลสามพี่น้องคือ อุรุเวลากัสสปะ นทีกัสสปะ คยากัสสปะ และบริวาร 1,003 รูป จนสำเร็จพระอรหันต์ทั้งหมด
• พุทธคยา เป็นพุทธสถานที่มีความสำคัญที่สุด 1 ใน 4 แห่งของชาวพุทธ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสถานที่ตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปัจจุบันตั้งอยู่ด้านตะวันตกของแม่น้ำเนรัญชรา ห่างจากฝั่งแม่น้ำประมาณ 350 เมตร (นับจากพระแท่นวัชรอาสน์) พุทธคยามีสัญลักษณ์ที่สำคัญคือองค์เจดีย์สี่เหลี่ยมที่สูงใหญ่ โดยสูงถึง 51 เมตร ฐานวัดโดยรอบได้ 120 เมตร ล้อมรอบด้วยโบราณวัตถุ โบราณสถานสำคัญ เช่น ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พระแท่นวัชรอาสน์ ที่ประทับตรัสรู้และอนิมิสสเจดีย์ ซึ่งนอกจากพุทธสถานโบราณแล้ว บริเวณโดยรอบพุทธคยายังเป็นที่ตั้งของวัดพุทธนานาชาติ รวมทั้งวัดไทยคือวัดไทยพุทธคยา
ที่ตั้ง : ตำบลพุทธคยา อำเภอคยา จังหวัดมคธ รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
พระพุทธเมตตา มหาโพธิเจดีย์
ต้นพระศรีมหาโพธิ ต้นที่ 4 จุดแสดงสะดือของโลก
สารนาถ (Sarnath)
ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เป็นสังเวชนียสถานแห่งที่ ๓
เป็นสถานที่แสดงปฐมเทศนาหรือเทศน์ครั้งแรกของพระพุทธเจ้า ซึ่งพระพุทธองค์ได้แสดงธัมจักรกัปปวัตตนสูตร อันเป็นสูตรแรกที่พระองค์ แสดงเพื่อโปรดปัญจวัคคีย์ คือโกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสสชิ เมื่อแสดงธรรมจบลง พระอัญญาโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรม และขออุปสมบทเป็นภิกษุรูปแรก ซึ่งตรงกับวันเพ็ญ เดือน 8 วันอาสาฬหบูชา ต่อมาพระพุทธเจ้าทรงบวชให้ทั้ง 5 รูป จึงเป็นสาวกรุ่นแรกในพุทธศาสนา เจดีย์ที่เห็นอยู่นี้ เรียกว่า ธัมเมกะสถูป สร้างโดยพระเจ้าอโศกมหาราช ปัจจุบันห่างจากเมืองพาราณสี 9 กิโลเมตร ตั้งอยู่ : ทางเหนือของเมืองพาราณสี รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย
ธรรมเมกขสถูป แสดงปฐมเทศนา ธรรมจักกัปปวัตนสูตร
เสาอโศก
“เสาอโศก” หรือ “เสาแห่งพระเจ้าอโศก” (Pillars of Ashoka) เป็นเสาสัญลักษณ์แห่งพระพุทธศาสนาในผืนแผ่นดินแห่งชมพูทวีปเมื่อครั้งอดีตกาล สร้างขึ้นโดยพระราชโองการของพระเจ้าอโศก (King Ashoka) กษัตริย์แห่งราชวงศ์โมริยะ หรือ เมารยะ (Maurya)
โดยจะสร้างเสาศิลาปักตั้งไว้ ณ ตำแหน่งของสถานที่ที่เป็นสังเวชนียสถาน และสถานที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สันนิษฐานว่า การสร้างเสาอโศกไม่เพียงแต่เป็นการระบุถึง ที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือนการประกาศถึงพระพุทธศาสนาที่ได้ขยายขอบเขตแว่นแคว้นไปทั่วทุกแห่งหนในรัชสมัยของพระองค์ เป็นเครื่องหมายแทนพุทธบูชา และเตือนขุนนางทั้งปวงให้ปกครองราษฎรโดยธรรม
หัวสิงห์บนเสาพระเจ้าอโศก หัวสิงห์ขุดค้นพบครั้งแรกที่สารนาถ ค้นพบใหม่ เมืองเลาลิยะนันดันท์
เมืองกุสินารา เป็นสังเวชยนียสถานแห่งที่ 4
เป็นเมืองที่พระพุทธเจ้า เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ซึ่งสถานที่ปรินิพพาน อยู่ในเขตสาลวโนทยาน จังหวัดโครักขปูร์ รัฐอุตตรประเทศ เป็นที่ร่มรื่น มีต้นไม้สาละล้อมรอบ เดิมเป็นสวนของพระเจ้ามัลละกษัตริย์ หลังจากปรินิพพานแล้ว โทณพราหมณ์ ได้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุออกเป็น 8 ส่วน ปัจจุบันมีพระเจดีย์ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช และพระพุทธรูปปางปรินิพพานอยู่ 1 องค์
มหาปรินิพพานเจดีย์ พระพุทธเจ้าปางไสยาสน์
มกุฏพันธนเจดีย์ เมืองกุสินารา
ห่อพระพุทธสรีระด้วยผ้าใหม่แล้วซับด้วยสำลี แล้วใช้ผ้าใหม่ห่อทับอีก ทำเช่นนี้จนหมดผ้า ๕๐๐ คู่ แล้วอัญเชิญลงในรางเหล็กที่เติมด้วยน้ำมัน แล้วทำจิตกาธานด้วยดอกไม้จันทน์ และของหอมทุกชนิด จากนั้นให้พวกเจ้ามัลลกษัตริย์ระดับหัวหน้า ๔ คน พยายามจุดไฟที่เชิงตะกอน แต่ก็ไม่อาจให้ไฟติดได้ จึงสอบถามสาเหตุ พระอนุรุทธะเถระแจ้งว่า “เพราะเทวดามีความประสงค์ให้รอพระมหากัสสปเถระและหมู่ภิกษุใหญ่ ๕๐๐ รูป ผู้กำลังเดินทางมาเพื่อถวายบังคมพระบาทเสียก่อน”
มกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิง วันอัฏฐมีบูชา วันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ
เมืองสาวัตถี
ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ในรัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย
เมืองสาวัตถีในสมัยพุทธกาล
• เมืองสาวัตถีเป็นเมืองหนึ่งในจำนวน ๖ เมืองที่ยิ่งใหญ่และเจริญรุ่งเรืองที่สุด เป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศล ซึ่งเป็นแคว้นหนึ่งในจำนวน ๑๖ แคว้นในสมัยพุทธกาล และเป็นแคว้นที่ยิ่งใหญ่อีกแคว้นหนึ่งใน ๔ แคว้น แคว้นโกศลมีความยิ่งใหญ่ในด้านการปกครอง เป็นศูนย์กลางในการติดต่อกับแคว้นต่างๆ ทางตอนเหนือเช่น มคธ กาสี กุรุ วัชชี ต่อมาแคว้นโกศลได้ผนวกแคว้นกาสีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง รวมทั้งยังปกครองแคว้นสักกะซึ่งเป็นเมืองพุทธบิดาอีกด้วย
• พระบรมศาสดาได้เสด็จจาริกสู่เมืองสาวัตถี เพื่อโปรดมหาชนเป็นครั้งแรกเมื่อท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีทูลนิมนต์ และได้จำพรรษาถึง ๒๕ พรรษา ทรงประทับอยู่จำพรรษาในวัดพระเชตวันมหาวิหารมหาวิหารของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ๑๙ พรรษาและวัดบุพพารามของนางวิสาขา ๖ พรรษา ทั้งนี้เป็นเพราะเศรษฐีและนางวิสาขาศรัทธาเลื่อมใสพระพุทธศาสนา และมีอุปการะคุณต่อพระภิกษุสงฆ์นานับประการ
พระคันธกุฎี กุฎีหอม วัดเชตะวันมหาวิหาร
ต้นอานันทโพธิ 2500 ปี
ซากวัดโบราณ พระคันธกุฎี กุฎิหอม
เมืองเวสาลีในสมัยพุทธกาล
มีความสำคัญในฐานะที่เป็นเมืองหลวงของพระเจ้าลิจฉวี ที่มีปกครองแคว้นวัชชี เมืองนี้เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่งในสมัยพุทธกาล เป็นเมืองที่มั่นแห่งสำคัญของพระพุทธศาสนาในสมัยนั้น โดยพระพุทธเจ้าเคยเสด็จเยี่ยมเมืองแห่งนี้ในปีที่ 5 หลังการตรัสรู้ ตามการกราบบังคมทูลเชิญจากเจ้าผู้ครองแคว้นและในช่วงหลังพุทธกาล เมืองแห่งนี้ได้ตกเป็นของแคว้นมคธ โดยการนำของพระเจ้าอชาตศัตรูกษัตริย์แห่งเมืองราชคฤห์และหลังการล่มสลายของราชวงศ์พิมพิสารในเมืองราชคฤห์ พระราชาองค์ต่อมาจึงได้ย้ายเมืองหลวงแห่งแคว้นมคธมายังเมืองเวสาลี ทำให้เมืองแห่งนี้เจริญถึงขีดสุด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองนี้ได้เป็นสถานที่ทำทุติยสังคายนาของพระพุทธศาสนา ก่อนที่จะเสื่อมความสำคัญและถูกทิ้งร้างลง เมื่อมีการย้ายเมืองหลวงของแคว้นมคธไปยังเมืองปาฏลีบุตรหรือเมืองปัตนะอันเป็นเมืองหลวงของรัฐพิหารในปัจจุบัน
ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาที่เวสาลีหลายครั้ง แต่ละครั้งจะทรงประทับที่กูฏาคารศาลาวัดป่ามหาวันเป็นส่วนใหญ่ พระสูตรหลายพระสูตรเกิดขึ้นที่เมืองแห่งนี้ และที่กูฏาคารศาลานี่เอง ที่เป็นที่ ๆ พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้พระนางมหาปชาบดีโคตมีเถรี พระน้านางของพระพุทธองค์ พร้อมกับบริวาร สามารถอุปสมบทเป็นภิกษุณีได้เป็นครั้งแรกในโลก และในการเสด็จครั้งสุดท้ายของพระพุทธองค์ พระองค์ได้ทรงรับสวนมะม่วงของนางอัมพปาลี นางคณิกาประจำเมืองเวสาลี ซึ่งนางได้อุทิศถวายเป็นอารามในพระพุทธศาสนา
พระพุทธองค์ได้ทรงจำพรรษาสุดท้ายที่เวฬุวคามและได้ทรงปลงอายุสังขารที่ปาวาลเจดีย์ และเมื่อหลังพุทธปรินิพพานแล้วได้ 100 ปี ได้มีการทำสังคายาครั้งที่ 2 ณ วาลิการาม ซึ่งทั้งหมดล้วนอยู่ในเมืองเวสาลี
ปาวาลเจดีย์ สถานที่ปลงอายุสังขาร เมืองเวสาลี วัดป่ามหาวัน กำเนิดภิกษุณีแห่งแรกของโลก
เมืองราชคฤห์
• ราชคฤห์ (Rajgir) เป็นชื่อเมืองหลวงของแคว้นมคธสมัยพุทธกาล เป็นเมืองในหุบเขา มีภูเขาล้อมรอบ ๕ ลูก จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เบญจคีรีนคร คือ อิสิคิรี บัณฑวะ คิชฌกูฏ เวภาระ และเวปลละ
• ราชคฤห์ เป็นเมืองหลักพระพุทธศาสนา โดยพระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดพระเจ้าพิมพิสารผู้ครองนคร เป็นเมืองที่มีประวัติความเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนามากที่สุด สถานที่ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าและพระสาวกยังปรากฏอยู่มากมาย เช่น พระคันธกุฎีบนยอดเขาคิชฌกูฏ วัดเวฬุวันซึ่งเป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา ถ้ำสุกรขาตาที่พระสารีบุตรได้บรรลุธรรม ถ้ำสัตบรรณคูหาที่ทำสังคายนาครั้งแรก
• เมืองหลวงของราชคฤห์ ถูกย้ายไปไว้ที่ปาฏลีบุตรตั้งแต่สมัยพระเจ้าอชาตศัตรู ส่งผลให้ราชคฤห์ในปัจจุบันเป็นเพียงเมืองเล็กๆ ในรัฐพิหาร มีผู้อยู่อาศัยไม่มาก มีสภาพเกือบเป็นป่า แต่เป็นสถานที่แสวงบุญของชาวพุทธทั่วโลกแห่งหนึ่ง
เขาคิชกูฎ เมืองราชคฤห์
เขาคิชกูฎคือเขาหัวแร้ง ถ้ำสุกรขาตา หรือถ้ำคางหมู
วัดเวฬุวันมหาวิหาร วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา
• วัดเวฬุวันมหาวิหาร หรือ พระวิหารเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน เป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา ตั้งอยู่ใกล้เชิงเขาเวภารบรรพต บนริมฝั่งแม่น้ำสรัสวดีซึ่งมีตโปธาราม (บ่อน้ำร้อนโบราณ) คั่นอยู่ระหว่างกลาง นอกเขตกำแพงเมืองเก่าราชคฤห์ (อดีตเมืองหลวงของแคว้นมคธ) รัฐพิหาร ประเทศอินเดียในปัจจุบัน (หรือ แคว้นมคธ ชมพูทวีป ในสมัยพุทธกาล)
• คำว่า เวฬุวัน แปลว่า สวนไผ่ เดิมวัดแห่งนี้เป็นพระราชอุทยานของพระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์แคว้นมคธ ตั้งอยู่นอกเมืองราชคฤห์ เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วได้เสด็จไปยังเมืองราชคฤห์ พระเจ้าพิมพิสารพร้อมด้วยข้าราชบริพารเข้าไปเฝ้า หลังจากทรงสดับธรรมแล้วทรงเลื่อมใสจึงถวายสวนเวฬุวันเป็นพุทธบูชา ด้วยทรงเห็นว่าเป็นที่สงบร่มรื่น เหมาะสำหรับอยู่บำเพ็ญธรรมของพระสงฆ์ ถือกันต่อมาว่าสถานที่นี้เป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา เรียกว่า วัดเวฬุวันมหาวิหาร นอกจากนี้วัดนี้ยังเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่พระสาวกจำนวน 1,250 รูป แล้วส่งไปเป็นพระธรรมทูตประกาศพระศาสนา อันเป็นที่มาของวันมาฆบูชา
เมืองนาลันทา
• นาลันทา เป็นชื่อเมืองๆ หนึ่งในแคว้นมคธ อยู่ห่างจากพระนครราชคฤห์ประมาณ 1 โยชน์ (ประมาณ 16 กิโลเมตร) เมืองนี้มีสวนมะม่วง ชื่อปาวาริกัมพวัน (สวนมะม่วงของปาวาริกเศรษฐี) ซึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับแรมหลายครั้ง คัมภีร์ฝ่ายมหายานกล่าวว่า พระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะ ซึ่งเป็นอัครสาวก เกิดที่เมืองนาลันทา แต่คัมภีร์ฝ่ายบาลีเรียกถิ่นเกิดของ พระสารีบุตรว่า หมู่บ้านนาลกะหรือนาลันทคาม
• ที่ตั้งของเมืองนาลันทาในปัจจุบัน
• นาลันทาเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ห่างจากเมืองราชคฤห์ใหม่ประมาณ 12 กิโลเมตร ห่างจากเมืองปัตนะ รัฐพิหาร ประมาณ 90 กิโลเมตร ถึงแม้จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ แต่ภายหลังการขุดค้นพบซากมหาวิทยาลัยนาลันทาแล้ว ทางรัฐบาลรัฐพิหารได้ประกาศยกฐานะหมู่บ้านนาลันทา เป็นอำเภอนาลันทา (ที่ว่าการอำเภออยู่ที่พิหารชารีฟ ตั้งอยู่ห่างจากนาลันทา 12 กิโลเมตร)
นาลันทาในสมัยพุทธกาล
ประตูทางเข้า มหาวิทยาลัย เจดีย์พระธาตุพระสารีบุตร หลวงพ่อดำ นาลันทา
เจดีย์บรรจุพระธาตุ พระสารีบุตร
ถ้ำอชันต้า ถ้ำเอลโรล่า มรดกโลก
หมู่ถ้ำ อชันตา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปีค.ศ.1983 ชมความงดงามและอลังการของสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นจากความศรัทธาในพระพุทธศาสนา โดยขุดเจาะภูเขาเป็นสังฆรามขนาดใหญ่แบบศิลปะคุปตะและหลังคุปตะอันวิจิตร ถ้ำอชันตาประกอบไปด้วยถ้ำ 28 ถ้ำ มีอายุกว่า 2,000 ปี เป็นพุทธสถานที่สร้างจากการสกัดหน้าผาหินเข้าไปในเขาเหนือแม่น้ำวโฆระ แต่เดิมเป็นศูนย์กลางสำนักปฏิบัติของเหล่าสงฆ์ในพุทธศาสนาราวพุทธศตวรรษที่ 7-13 สืบ ก่อนถูกทอดทิ้งให้รกร้างกลางป่าจึงรอดพ้นจากการทำลายล้างจากกองทัพผู้รุกรานจนมาถูกค้นพบอีกครั้งโดยบังเอิญจากนายทหารอังกฤษในศตวรรษที่ 19 ภายในถ้ำท่านจะได้ชมงานแกะสลักเสาอันงดงามและวิจิตรบรรจง รวมถึงพระพุทธรูปและเจดีย์ศิลาที่สกัดและตกแต่งขึ้นจากหินเนื้อเดียวกันกับพื้นผนังถ้ำยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอายุกว่า 1,200 ปี มีความงดงามสมบูรณ์ด้วยเทคนิคการเขียนภาพสามมิติ ภาพสีเฟรสโก้อันน่าอัศจรรย์ พระพุทธรูปศิลา ที่แสดงอารมณ์พระพักตร์ต่างกันเมื่อแสงตกสะท้อนจากต่างมุมถ้ำอชันตาเป็นถ้ำที่ผสมผสานระหว่างศิลปะแบบพุทธและฮินดูเข้าด้วยกัน
ทัชมาฮาล อนุสรณ์แห่งความรัก
ทัชมาฮาล อนุสรณ์สถานแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำยมุนา สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาวและหินทรายสีแดง ประดับประดาด้วยรัตนชาติหลากหลายชนิด ใช้เวลาในการสร้างถึง 22 ปี เพื่อแสดงถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ซาจาร์ฮาล ต่อพระมเหสี มุมตัสมาฮาล ที่สวรรคตเนื่องจากการให้กำเนิดบุตรคนที่ 14 ภายในทัชมาฮาล เป็นที่บรรจุร่างของพระนางมุมตัสและกษัตริย์ซาจาร์ฮาลที่สวยงามโดดเด่น (ทัชมาฮาล ปิดทุกวันศุกร์) จากนั้นนำท่านชม อัคราฟอร์ท พระราชวังที่ยิ่งใหญ่สร้างขึ้นโดยใช้เวลาที่ยาวนานถึงสามยุคของกษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุล มีลักษณะเป็นกำแพงสองชั้นและป้อมอาคารทางเข้าสี่ทิศ ภายในประกอบด้วยพระราชวัง มัสยิด สวนดอกไม้ อาคารหินทรายสีแดงสร้างโดยกษัตริย์อัคบาร์ ที่นี่ยังเป็นที่คุมขังกษัตริย์ซาจาร์ฮาล โดยบุตรชายของพระองค์เอง พระองค์ใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิต โดยการมองผ่านแม่น้ำยุมนาไปยังทัชมาฮาลที่ซึ่งมเหสีสุดที่รักของพระองค์ประทับอยู่อย่างนิรันดร์
อัคราฟอร์ท
หน้าที่เข้าชม | 134,120 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 85,419 ครั้ง |
เปิดร้าน | 4 ส.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 11 ก.ย. 2568 |